ญาติผู้ป่วยแฉโรงพยาบาลดังจังหวัดเพชรบุรีคัดกรอง ละหลวม ปล่อยคนติดโควิชปะปนกับผู้ป่วยปกติทำให้กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 

  ญาติผู้ป่วยแฉโรงพยาบาลดัง เมื่อวันที่ 30 เดือนตุลาคมปีพศ 2564  ในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ข้อความร้องเรียน โรงพยาบาลโดยมีการแชร์ไปยัง Facebook ซึ่งผุ้โพสต์นั้นระบุว่าเธอเป็นญาติของผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์   

         โดยหญิงสาวรายนี้เล่าว่าทางโรงพยาบาลมีการคัดกรอง ไวรัสโควิดไม่ดีมีความหละหลวมเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าเธอต้องเจอกับปัญหาว่าแม่ของเธอนั้นไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลดังกล่าวโดยนอนอยู่ห้องผู้ป่วยรวมซึ่งมีผู้ป่วยหลายคนนอนป่วยอยู่ในนั้นรวมถึงญาติของผู้ป่วยโดยแม่ของเธอนั้นมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรักษาตัวมาแล้วหลายวันจนหายดีแล้วกำลังจะได้กลับบ้านปรากฏว่าในช่วงเวลาตอนกลางคืนได้มีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามากลางดึกเป็นคุณลุงซึ่งมีอาการไออยู่ตลอดเวลา 

        นอกจากนี้ยังมีอาการท้องเสียและหายใจเองไม่ได้ต้องใส่เครื่องช่วยออกซิเจนอยู่ตลอดเวลาโดยทุกคนในไม่ได้คิดสงสัยอะไรเนื่องจากว่าคิดว่าทางโรงพยาบาลนั้นมีการคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิตมาแล้วแต่ปรากฏว่าผ่านไปเพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลก็มาแยกผู้ป่วยชายดังกล่าวออกไปพร้อมกันนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทราบมาว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วและที่พีคไปมากกว่านั้นก็คือทางเจ้าหน้าที่พยาบาลได้มาบอกว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ไม่สามารถออกจากห้องได้เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากว่าชายคนดังกล่าวนั้นติดเชื้อไวรัสโควิด 

           อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่มีการโพสต์ออกมาจากทางโรงพยาบาลนั้นระบุว่าเธอไปตรวจสอบข้อมูลมาพบว่าก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะถูกนำมาในห้องผู้ป่วยรวมนั้นไม่มีการสอบถามเกี่ยวกับคนในครอบครัวแล้วพบว่าภรรยาของชายคนดังกล่าวนั้นป่วยติดเชื้อไวรัสโควิช-19

ดังนั้นแสดงว่าชายคนดังกล่าวนั้นก็เป็นคนเสี่ยงสูงที่อาจจะติดเชื้อได้ซึ่งอันที่จริงทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลควรจะต้องแยกชายคนดังกล่าวออกจากผู้ป่วยคนอื่นๆแต่กลับมีการนำมาไว้ในห้องผู้ป่วยรวมและชายคนดังกล่าวก็ไออยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยและผู้ป่วยคนอื่นที่อยู่ในห้องก็ไม่มีใครใส่หน้ากากอนามัย

         กลายเป็นว่าหลังจากที่ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้วถึงเมื่อตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิช- ทำให้คนที่อยู่ในห้องกับชายคนดังกล่าวนั้นเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิคสูงทุกคนทำให้แม่ของเธอแทนที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลต้องมากักตัว

ซึ่งมองว่าเป็นการทำงานที่หละหลวมของทางพยาบาลและทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมากนอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่ได้มีการออกมาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดซึ่งเรื่องนี้เธอมองว่าถ้าสุดท้ายแล้วแม่ของเธอติดเชื้อไวรัสโควิชเรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ 

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ