เรือฉลามเหล็ก เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะสุดเจ๋ง

เรือฉลามเหล็ก เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น จะไม่พูดถึงก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะสุดเจ๋ง ที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน  ว่ามันเกิดขึ้นมาบนโลกของเรา  แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมที่มนุษย์เป็นผู้สร้าง

ด้วยความเชื่อว่ามันจะเป็นพาหนะทางเรือที่มีความทันสมัย และล้ำยุคแห่งปี  และเราเชื่อว่าพาหนะที่เราจะนำเสนอ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องที่เกิดขึ้นนอกโลกของเราเท่าไหร่  ถ้าคุณอยากรู้แล้วเราไปทำความรู้จักมันพร้อมกันเลย

เรื่องราวที่น่าสนใจที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณอยากได้อย่างแน่นอน  เพราะว่ายานพาหนะนั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การผลิตรถยนต์  เครื่องบินจักรยานยนต์  แต่ในวันนี้เรื่องราวของยานพาหนะ ที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นเรื่องราวของ การผลิตนวัตกรรมทางน้ำ ให้ทันตามการเปลี่ยนแปลงของโลก 

โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในด้านต่างๆอีกมากมาย ทีมงานวิศวกร ได้มีการพัฒนาต้นแบบของเรือรบ ให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ของผู้ใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกันกับ  เรื่องราวของเรือฉลามเหล็ก  ที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้  ถ้ามองไกลๆอาจจะคิดว่ามัน      คือโลมากระโดดขึ้นจากน้ำ  แต่จริงๆแล้ว

มันคือเรือจำลอง รูปแบบการสร้างที่ส่งตรงมาจากโรงงาน และนำรูปลักษณ์ของฉลามมาเป็นต้นแบบในการสร้าง  ซึ่งการสร้างเรือฉลามเหล็ก  เป็นผลผลิตจากบริษัทแห่งหนึ่งมีการออกแบบลาย ให้กับตัวเรือ โดยเรือฉลามเหล็กมันสามารถเคลื่อนที่ ด้วยความเร็วเกือบ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ 240 แรงม้า จาก seadoo jetski

ซึ่งเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนกับปลาตัวหนึ่ง  ที่มันจะกระโจนขึ้นฟ้าหรือหมุนตัวไปมาก็ทำได้หมด  ถ้ารู้ตัวว่าการจะเข้าไปนั่งในเรือลำดังกล่าว หากเป็นคนเมาเรือ  ก็อย่าลืมเตรียมถุงไปด้วยนะ จะได้ไม่ออกมาเลอะเทอะ และด้วยความ     ที่มันเป็นพาหนะ ที่สามารถตอบโจทย์คนที่ชอบเดินทางบนผิวน้ำ  แน่นอนหากมีใครสนใจ อยากจะลองไปด้วยเรือลำดังกล่าว ก็สามารถถอยมาขับเล่นได้นะ  ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษี

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บไหนแตกดี

ญาติผู้ป่วยแฉโรงพยาบาลดังจังหวัดเพชรบุรีคัดกรอง ละหลวม ปล่อยคนติดโควิชปะปนกับผู้ป่วยปกติทำให้กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 

  ญาติผู้ป่วยแฉโรงพยาบาลดัง เมื่อวันที่ 30 เดือนตุลาคมปีพศ 2564  ในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ข้อความร้องเรียน โรงพยาบาลโดยมีการแชร์ไปยัง Facebook ซึ่งผุ้โพสต์นั้นระบุว่าเธอเป็นญาติของผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์   

         โดยหญิงสาวรายนี้เล่าว่าทางโรงพยาบาลมีการคัดกรอง ไวรัสโควิดไม่ดีมีความหละหลวมเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าเธอต้องเจอกับปัญหาว่าแม่ของเธอนั้นไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลดังกล่าวโดยนอนอยู่ห้องผู้ป่วยรวมซึ่งมีผู้ป่วยหลายคนนอนป่วยอยู่ในนั้นรวมถึงญาติของผู้ป่วยโดยแม่ของเธอนั้นมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรักษาตัวมาแล้วหลายวันจนหายดีแล้วกำลังจะได้กลับบ้านปรากฏว่าในช่วงเวลาตอนกลางคืนได้มีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามากลางดึกเป็นคุณลุงซึ่งมีอาการไออยู่ตลอดเวลา 

        นอกจากนี้ยังมีอาการท้องเสียและหายใจเองไม่ได้ต้องใส่เครื่องช่วยออกซิเจนอยู่ตลอดเวลาโดยทุกคนในไม่ได้คิดสงสัยอะไรเนื่องจากว่าคิดว่าทางโรงพยาบาลนั้นมีการคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิตมาแล้วแต่ปรากฏว่าผ่านไปเพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลก็มาแยกผู้ป่วยชายดังกล่าวออกไปพร้อมกันนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทราบมาว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วและที่พีคไปมากกว่านั้นก็คือทางเจ้าหน้าที่พยาบาลได้มาบอกว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ไม่สามารถออกจากห้องได้เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากว่าชายคนดังกล่าวนั้นติดเชื้อไวรัสโควิด 

           อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่มีการโพสต์ออกมาจากทางโรงพยาบาลนั้นระบุว่าเธอไปตรวจสอบข้อมูลมาพบว่าก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะถูกนำมาในห้องผู้ป่วยรวมนั้นไม่มีการสอบถามเกี่ยวกับคนในครอบครัวแล้วพบว่าภรรยาของชายคนดังกล่าวนั้นป่วยติดเชื้อไวรัสโควิช-19

ดังนั้นแสดงว่าชายคนดังกล่าวนั้นก็เป็นคนเสี่ยงสูงที่อาจจะติดเชื้อได้ซึ่งอันที่จริงทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลควรจะต้องแยกชายคนดังกล่าวออกจากผู้ป่วยคนอื่นๆแต่กลับมีการนำมาไว้ในห้องผู้ป่วยรวมและชายคนดังกล่าวก็ไออยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยและผู้ป่วยคนอื่นที่อยู่ในห้องก็ไม่มีใครใส่หน้ากากอนามัย

         กลายเป็นว่าหลังจากที่ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้วถึงเมื่อตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิช- ทำให้คนที่อยู่ในห้องกับชายคนดังกล่าวนั้นเสี่ยงเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิคสูงทุกคนทำให้แม่ของเธอแทนที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลต้องมากักตัว

ซึ่งมองว่าเป็นการทำงานที่หละหลวมของทางพยาบาลและทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมากนอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่ได้มีการออกมาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดซึ่งเรื่องนี้เธอมองว่าถ้าสุดท้ายแล้วแม่ของเธอติดเชื้อไวรัสโควิชเรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ 

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ