วิธีใช้โทรศัพท์มือถือให้ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น 

      วิธีใช้โทรศัพท์มือถือ  สำหรับคนที่มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เชื่อว่าก็อยากให้โทรศัพท์มือถือของตนเองนั้นมีอายุการใช้งานได้นาน

เพราะปัจจุบันโทรศัพท์มือถือดีๆแบรนด์ดังๆบาง แบรนด์นั้นก็มีราคาแพงมากดังนั้นเชื่อว่าหลายคนคงอยากที่จะใช้โทรศัพท์มือถือให้นานและเกิดความคุ้มค่ามากที่สุดและไม่อยากจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่อย่างแน่นอนเพราะการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ทุกครั้งนั้นเราก็จะต้องมีการตั้งค่าที่ตัวเครื่องใหม่และต้องมีการโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ซึ่งต้องเกิดความยุ่งยาก

         อย่างไรก็ตามตามปกติแล้วการใช้โทรศัพท์มือถือนั้นบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์มือถือมักจะมีการผลิตโทรศัพท์มือถือให้มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3-4 ปีเต็มที่ไม่เกิน 5 ปีเท่านั้นหลังจากนั้นโทรศัพท์มือถือก็จะรวนบ่อยและเกิดปัญหาเสียหายหรือพังบ่อยซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการใช้งานโทรศัพท์มือถืออย่างไรที่จะสามารถยืดอายุการใช้งานของโทรศัพท์มือถือของเราให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้นกว่าเดิม 

          สำหรับโทรศัพท์มือถือที่มีการใช้งานมานานย่อมที่จะมีการสะสมข้อมูลลงในโทรศัพท์มือถือตามระยะเวลาการใช้งานของเรา

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในโทรศัพท์มือถือของเรานั้นจะมีไฟล์ขยะเกิดขึ้นมากมายและส่งผลทำให้โทรศัพท์มือถือของเราค้างหรือว่าช้าบ่อยดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานให้โทรศัพท์ของเรานั้นกลับมามีสภาพการใช้งานที่ดีเหมือนเดิมเราจึงควรทำการรีเซ็ตเครื่องใหม่หรือล้างข้อมูลการตั้งค่าใหม่ลบข้อมูลที่เราไม่ได้มีการใช้งานทิ้งออกไปก็จะทำให้มือถือของเรานั้นใช้งานได้นานขึ้น

          นอกจากนี้หากใครที่มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาไว้ที่ตัวเครื่องแล้วเป็น Application ที่ไม่เคยใช้งานหรือไม่จำเป็นในการใช้งานเลยหรือบางแบรนด์อาจจะมีการตั้งแอพพลิเคชั่นซ่อนไว้เป็นที่ตัวเครื่องเราก็สามารถ delete Application เหล่านั้นออกได้เนื่องจากว่าบางทีแอปพลิเคชันที่แฝงมากับตัวเครื่องนะน่าจะเป็น Application ที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายที่ตัวเครื่องก็เป็นไปได้ 

            อย่างไรก็ตามเมื่อโทรศัพท์มือถือของเรามีการใช้งานไปซักระยะหนึ่ง  ufabet   จะเห็นได้ว่าตัวระบบจะมีการส่งข้อมูลให้อัพเดทซอฟแวร์เป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆอยู่อย่างสม่ำเสมอซึ่งเราควรที่จะมีการอัปเดตตามที่ระบบส่งให้เพื่อให้โทรศัพท์มือถือของเรานั้นแก้ไขปัญหาต่างๆในตัวเครื่องอย่างเช่น

แก้ไขบัคและยังทำให้มือถือของเราใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วยและที่สำคัญถ้าหากว่ามือถือของเรามีปัญหาการใช้งานไม่ได้และเราแก้ไขเบื้องต้นแล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ก็สามารถนำมือถือไปติดต่อที่ศูนย์บริการให้ทางศูนย์ทำการตรวจสอบและแก้ไขให้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วศูนย์บริการก็จะมีการซ่อมให้ฟรีถ้าหากอยู่ในช่วงรับประกัน

ภารกิจชิ้นส่วนจรวด LongMarch -5B สิ้นสุดแล้ว 

            จากกรณีที่ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศ  GISTDA  ได้ออกมาโพสต์เตือนคนไทยประมาณ 24 จังหวัดอาจจะได้รับผลกระทบจากกรณีที่จรวด  LongMarch -5B

ที่ถูกส่งออกไปโคจรนอกโลก จะตกลงมาและชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B อาจจะตกใส่บ้านเรือนของประชาชนประมาณ 24 จังหวัดนั้น  ในขณะนี้ได้มีการเปิดเผยออกมาจากผอ. ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          โดยมีการระบุ v ว่าจากการวิเคราะห์เมื่อวันที่ 30 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 พบว่าชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B น่าจะตกลงสู่พื้นโลกในช่วงเวลาประมาณ 20:00 น ถึง 21:00 น ของวันดังกล่าว นอกจากนี้ชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5Bที่จะตกลงมาในรอบที่ 2 นั้นก็น่าจะตกอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลา 6:00 น ของวันที่ 31 เดือนกรกฎาคมปีพศ. 2565

          อย่างไรก็ตามจากการคำนวณพิกัดการตกของชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B มีการคาดการณ์ว่าชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B

น่าจะตกลงในมหาสมุทรอินเดียและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ 24 จังหวัดของไทยที่เคยมีการประกาศออกไป 

         

ภารกิจชิ้นส่วนจรวด LongMarch -5B อย่างไรก็ตามทางศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศไม่ได้นิ่งนอนใจยังคงให้ทางเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์คอยเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะถ้าหากมีการคลาดเคลื่อนจากเวลาที่มีการคำนวณเอาไว้ก็จะได้มีการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนคนไทยได้ทราบล่วงหน้าซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็มีการติดตามเวลาและจุดจบของชิ้นส่วนจรวด LongMarch -5B อยู่ตลอดเวลาเนื่องจากว่าจรวดมีน้ำหนักมากถึง 21 ตัน

         ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ชิ้นส่วนของตำรวจ LongMarch -5B ที่ตกลงมาอาจจะเผาไหม้ ไม่หมดในชั้นบรรยากาศและอาจจะตกมายังโลกประมาณ 10 ตันด้วยกัน  ซึ่งน้ำหนักขนาดนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อบริเวณที่ชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B ตกลงมาได้เพราะชิ้นส่วนนั้นมีทั้งสื่ออิเล็กทรอนิกส์และท่อนเหล็ก 

          สำหรับข้อมูลล่าสุด  GISTDA ได้ออกมายืนยันข้อมูลเรียบร้อยแล้วว่าชิ้นส่วนของจรวด  LongMarch -5B  ได้ตกลงพื้นผิวโลกหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยชิ้นส่วนดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการตกลงสู่ประเทศไทยแต่ชิ้นส่วนใหญ่จะตกลงบริเวณทะเลซูลูของประเทศฟิลิปปินส์  และมีชิ้นส่วนบางส่วนของจรวดGISTDA ตกแถวบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ดังนั้นจึงไม่มีผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือชีวิตของคนไทยและคนฟิลิปปินส์แม้แต่คนเดียว  ซึ่งถือว่าภารกิจการคอยดูแลชิ้นส่วนของจรวด LongMarch -5B   ได้สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 

        สำหรับเหตุผลที่จรวดLongMarch -5B  ถูกส่งไปยังนอกโลกนั้นก็เพราะว่าเป็นภารกิจที่จะต้องมีการนำเวิ่นเทียน โมดูลที่ 2 ไปยังสถานีอวกาศเทียนเหอเพื่อทำการเชื่อมต่อกัน  สำหรับการส่งจรวด LongMarch -5B  ขึ้นไปบนอวกาศนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 แล้ว 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง