หอกพลีมัธ ลั่น รอบหน้าขอเจอ แมนยู

ไรอัน ฮาร์ดี้ (Ryan Hardie) กองหน้าคนสำคัญของสโมสรพลีมัธ อาร์ไกล์ (Plymouth Argyle) กลายเป็นที่จับตามองในวงการฟุตบอลอังกฤษ หลังจากเขาเป็นผู้สังหารจุดโทษสำคัญช่วยให้ทีมสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะลิเวอร์พูล ในการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ผลงานของเขาไม่เพียงช่วยให้ทีมพลีมัธเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นฮีโร่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนบอลพลีมัธทั่วประเทศ   ไรอัน ฮาร์ดี้: ฮีโร่ผู้พาพลีมัธสร้างประวัติศาสตร์ ในเกมที่พบกับลิเวอร์พูล ฮาร์ดี้ต้องเผชิญกับความกดดันมหาศาล เนื่องจากจุดโทษดังกล่าวจะเป็นตัวตัดสินว่าทีมจะผ่านเข้ารอบต่อไปหรือไม่ แต่เขาแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความมั่นใจในการยิงจุดโทษ ลูกยิงของเขาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด ท่ามกลางเสียงเชียร์และความยินดีของแฟนบอลพลีมัธที่สนามเต็มไปด้วยอารมณ์ความสุข ชัยชนะในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การล้มทีมยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่มันยังเป็นการยืนยันถึงพัฒนาการของสโมสรพลีมัธที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และฮาร์ดี้ก็คือหนึ่งในกำลังหลักที่ช่วยขับเคลื่อนทีมไปสู่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้   ความหวังในการเจอแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจบการแข่งขัน ฮาร์ดี้ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า เขาต้องการให้ทีมพลีมัธจับสลากพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าของเอฟเอ คัพ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้จะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาเชื่อมั่นว่า ทีมของเขาสามารถต่อกรกับทีมระดับท็อปได้   สไตล์การเล่นและบทบาทของฮาร์ดี้ในทีม ไรอัน ฮาร์ดี้ เป็นกองหน้าที่มีจุดเด่นในเรื่องความเร็ว การจบสกอร์ที่เฉียบคม และการอ่านเกมได้ดี.

Read More

ประวัติความเป็นมาของ Glitter Tattoo

  ประวัติความเป็นมาของ Glitter Tattoo Glitter Tattoo หรือการสักกลิตเตอร์ เป็นศิลปะการตกแต่งร่างกายที่ใช้กลิตเตอร์ (glitter) หรือผงแวววาวในการสร้างลวดลายสักชั่วคราวบนผิวหนัง ศิลปะนี้ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในงานปาร์ตี้ งานเทศกาล และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ การสักด้วยกลิตเตอร์มีความโดดเด่นด้วยสีสันที่สดใสและแวววาวที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้ที่สวมใส่   การตกแต่งร่างกายด้วยกลิตเตอร์มีจุดเริ่มต้นมาจากการใช้วัสดุที่มีความแวววาวในการตกแต่งร่างกายเพื่อแสดงความสวยงาม เช่น ในวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองในหลายภูมิภาคทั่วโลก เช่น อเมริกาใต้และแอฟริกา ที่ใช้การทาผงแร่ธรรมชาติหรือละอองดินแวววาวเพื่อประดับตกแต่งในพิธีกรรมทางศาสนาและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ   กลิตเตอร์ในรูปแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเริ่มถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1930s โดยเฮนรี รุชแมน (Henry Ruschmann) ชาวอเมริกัน ซึ่งได้พัฒนาผงแวววาวจากพลาสติกที่ถูกบดละเอียด โดยในช่วงแรกกลิตเตอร์ถูกใช้ในอุตสาหกรรมศิลปะและแฟชั่น เช่น การประดับตกแต่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ แต่ในเวลาต่อมาการใช้กลิตเตอร์ก็เริ่มแพร่หลายสู่การตกแต่งร่างกาย   Glitter Tattoo เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความนิยมของศิลปะการสักชั่วคราว การนำกลิตเตอร์มาใช้กับลวดลายบนผิวหนังทำให้เกิดลุคที่สวยงามและแวววาว จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในงานเทศกาลดนตรี งานคาร์นิวัล งานวันเกิด และงานเลี้ยงฉลองต่าง ๆ การสักกลิตเตอร์สามารถสร้างลวดลายที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีสีสันสดใส ซึ่งเหมาะสำหรับการตกแต่งในโอกาสพิเศษ   ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21.

Read More