สหรัฐพัฒนาวัสดุใหม่ เปลี่ยนโปร่งใส เป็นทึบแสงเมื่อร้อนขึ้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไรซ์ (Rice University) ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราจัดการกับความร้อนและพลังงานภายในบ้าน โดยเทคโนโลยีที่พวกเขาพัฒนานี้เป็นวัสดุที่เรียกว่า “เทอร์โมโครมิก” (thermochromic) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลงสีหรือสภาพจากโปร่งใสเป็นทึบแสงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น และกลับมาโปร่งใสอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิลดลง จุดเด่นของวัสดุเทอร์โมโครมิกนี้คือการที่มันสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งคุณสมบัตินี้นำไปสู่แนวคิดในการประยุกต์ใช้เพื่อสร้างบ้านหรืออาคารที่สามารถลดอุณหภูมิภายในได้เองตามสภาพอากาศภายนอก วัสดุนี้จะเปลี่ยนเป็นทึบแสงในช่วงที่อุณหภูมิสูง ช่วยลดการดูดซับแสงแดดและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งจะทำให้ภายในบ้านเย็นลงและลดความจำเป็นในการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ ในทางกลับกัน เมื่ออุณหภูมิลดลงหรืออยู่ในช่วงที่อากาศเย็น วัสดุนี้จะกลับมาโปร่งใส ช่วยให้แสงแดดส่องเข้ามาในบ้านได้มากขึ้น และช่วยให้ภายในบ้านอบอุ่นขึ้นตามธรรมชาติ การค้นคว้าและพัฒนาของทีมวิจัยนี้เน้นที่การสร้างวัสดุเทอร์โมโครมิกที่สามารถทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว และสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยการวิจัยยังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการนำวัสดุนี้ไปประยุกต์ใช้กับการสร้างบ้าน อาคารสำนักงาน หรือแม้กระทั่งในโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพลังงานและความร้อน นอกจากประโยชน์ด้านการลดอุณหภูมิในบ้านและช่วยลดพลังงานที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศแล้ว วัสดุนี้ยังสามารถนำมาใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการสร้างบ้านที่ยั่งยืน วัสดุเทอร์โมโครมิกนี้อาจเป็นส่วนสำคัญในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หนึ่งในความท้าทายที่นักวิจัยต้องเผชิญคือการพัฒนาวัสดุนี้ให้มีต้นทุนที่เหมาะสมและสามารถผลิตได้ในปริมาณมากเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วไป การพัฒนาในด้านนี้ยังคงเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญ และนักวิจัยคาดหวังว่าจะสามารถทำให้วัสดุนี้เป็นที่เข้าถึงได้ง่ายในอนาคต อนาคตของการใช้งานวัสดุเทอร์โมโครมิกนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทางที่ดีมาก การนำวัสดุนี้ไปใช้สร้างบ้านหรืออาคารในสภาพอากาศร้อน เช่นในพื้นที่เขตร้อนหรือเขตอบอุ่น จะสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมาก เนื่องจากจะช่วยลดความร้อนภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากเครื่องปรับอากาศมากนัก ในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาต่อไป อาจมีความเป็นไปได้ที่วัสดุเทอร์โมโครมิกนี้จะถูกนำมาใช้ในวงกว้างในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และช่วยสร้างสรรค์บ้านและอาคารที่ไม่เพียงแต่มีความสวยงาม แต่ยังสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างยั่งยืน สนับสนุนโดย .