ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การเล่นเกมไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาและฝึกฝนทักษะในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการเตรียมตัวก่อนการเข้าสู่สนามจริง ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา การแข่งขัน หรือแม้แต่ในด้านการทหารและการทำงานในสถานการณ์วิกฤต คำถามที่ว่าการเล่นเกมมีผลดีต่อการฝึกฝนจริงหรือไม่นั้น สามารถตอบได้จากหลักฐานเชิงประจักษ์และงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์หลากหลายด้าน ดังนี้ พัฒนาทักษะการตัดสินใจและการแก้ปัญหา การเล่นเกม โดยเฉพาะเกมที่ต้องใช้การวางแผนและการตัดสินใจ เช่น เกมแนวกลยุทธ์  และเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง  ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ผู้เล่นต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในเวลาอันสั้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้ ตัวอย่างเช่น นักกีฬาที่เล่นเกมแนวจำลองสถานการณ์ อาจพัฒนาทักษะการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสนามแข่งจริงได้ดีขึ้น   การฝึกฝนในสภาพแวดล้อมจำลอง เกมจำลองสถานการณ์  เช่น เกมจำลองการบินสำหรับนักบิน หรือเกมจำลองการผ่าตัดสำหรับแพทย์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเทคโนโลยีเกมมาประยุกต์ใช้ในการฝึกฝนก่อนการทำภารกิจในโลกจริง สภาพแวดล้อมในเกมช่วยให้ผู้ฝึกสามารถทดลองและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้โดยไม่เสี่ยงต่อความเสียหายในชีวิตจริง นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการฝึกฝน เช่น การจำลองการขับเครื่องบินด้วยโปรแกรมจำลอง แทนที่จะต้องฝึกกับเครื่องบินจริงที่มีค่าใช้จ่ายสูง   เสริมสร้างความมั่นใจและลดความเครียด การเล่นเกมช่วยให้ผู้ฝึกมีความมั่นใจในการเผชิญกับสถานการณ์จริงมากขึ้น เนื่องจากเคยผ่านประสบการณ์ในลักษณะคล้ายกันมาแล้วในเกม การมีประสบการณ์จำลองทำให้สามารถจัดการกับความเครียดและความกดดันได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น นักกีฬาอีสปอร์ตที่ผ่านการเล่นเกมมาอย่างหนักหน่วงในสถานการณ์แข่งขันจำลอง จะสามารถรับมือกับความกดดันในสนามแข่งจริงได้ดีกว่า   พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร เกมหลายประเภทต้องใช้การทำงานเป็นทีมและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เช่น เกมแนว MOBA หรือเกมแนว FPS แบบทีม ผู้เล่นจะต้องประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม วางกลยุทธ์ และสื่อสารอย่างชัดเจน.